แม้ ฮอยลุนด์ จะเพิ่งยิงสองประตูในเกมอุ่นเครื่องกับบอร์นมัธที่ชิคาโก และยืนยันหลังเกมว่าต้องการอยู่กับทีมต่อไป แต่สถานการณ์กลับไม่ง่ายเช่นนั้น เนื่องจากยูไนเต็ดยังเดินหน้าเจรจากับ ไลป์ซิก เพื่อคว้าตัว เซสโก้ ที่มีข่าวว่าเจ้าตัวอยากย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มากกว่าที่จะไปนิวคาสเซิล

แม้แหล่งข่าวในสโมสรจะยืนยันว่าสามารถปิดดีลเซสโก้ได้โดยไม่ต้องขายนักเตะออกไปก่อน แต่ก็ยอมรับว่าการปล่อยตัวผู้เล่นบางรายเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อไม่ให้ผิดกฎกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก (PSR) และหาก เซสโก้ ย้ายเข้ามา ฮอยลุนด์ ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกลดบทบาท

อย่างไรก็ตาม หากแมนฯ ยูไนเต็ดขาย ฮอยลุนด์ ที่ราคา 30 ล้านปอนด์ จะทำให้ขาดทุนในเชิงบัญชีทันที เนื่องจากปัจจุบันเขายังมีมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 43 ล้านปอนด์ จากการเซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปีเมื่อปี 2023 ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์

แม้ ยูไนเต็ด จะทุ่มเงินไปแล้วเกือบ 130 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์นี้เพื่อคว้า ไบรอัน เอ็มบิวโม่ และ มาเธอุส คุนญ่า ซึ่งทั้งคู่ถนัดเล่นด้านหลังศูนย์หน้าตัวเป้า แต่ปัญหาการขาดแคลนกองหน้าตัวจบสกอร์ยังไม่ถูกแก้ไข จึงเป็นเหตุผลที่ทีมยังคงเดินหน้าล่าตัว เซสโก้ ต่อไป

ย้อนกลับไปตอนซัมเมอร์ปีที่แล้ว ยูไนเต็ดเลือกลงทุนมหาศาลเพื่อคว้า ฮอยลุนด์ โดยเชื่อว่าเขามี “ศักยภาพมหาศาล” ตามคำกล่าวของ เอริก เทน ฮาก แต่ฤดูกาลที่ผ่านมา ฮอยลุนด์ยิงได้เพียง 4 ประตูในพรีเมียร์ลีก และยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เต็มที่

คริส ซัตตัน อดีตกองหน้าแบล็คเบิร์น ให้ความเห็นว่า ยูไนเต็ดเองก็ไม่สามารถสร้างโอกาสให้ฮอยลุนด์ได้ดีพอ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องตั้งคำถามว่าเจ้าตัวทำได้ดีพอหรือไม่ พร้อมย้ำว่าแม้ ฮอยลุนด์ จะมีทัศนคติที่ดีและเวลาอยู่ในมือ แต่สโมสรจำเป็นต้องหากองหน้าที่การันตีประตูได้ทันที

ในขณะที่แฟนบอลบางส่วนยังเชื่อว่า ฮอยลุนด์ ควรได้รับโอกาสต่อไป แต่บอร์ดบริหารอาจไม่พร้อมเสี่ยงอีกแล้ว หลังเพิ่งปล่อย อัลบาโร่ การ์เรราส ไปเรอัล มาดริด ทั้งที่เคยถูกมองว่าขาดความเร็วพอเล่นในระดับสูง ก่อนจะกลายเป็นตัวหลักของราชันชุดขาวในที่สุด

คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า ยูไนเต็ด จะเลือกยอมรับความผิดพลาดในการซื้อตัวครั้งนี้และปล่อย ฮอยลุนด์ ออกไปเลยหรือไม่?